หลังจากที่หายไปปฎิบัติภารกิจซะนาน ขอสุขสันต์ปีใหม่ย้อนหลัง และก็เปิดปีด้วยสรุปเรื่องราว และสถิติที่เราอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ social media กันค่ะ คุณรู้หรือไม่ว่าวันนี้จำนวน อุปกรณ์ และ device ต่างๆ ที่เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตนั้นสูงกว่าจำนวนประชากรโลกซะอีก ซึ่งก็เป็นที่แน่ใจได้ว่าข้อมูลที่อยู่ใน pipeline ที่เชื่อมต่อกันทั้งโลกนั้น จำนวนมหาศาลสิงสถิตอยู่บน social networks ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี่แหละ ในแต่ละวันมีีรูปเป็นพันๆ รูปจากคนทั่วโลกที่ถูกแชร์ผ่าน Instagram มีวิดีโอความยาวมหึมาถูกโหลดขึ้นบน Youtube และแน่นอนมีสถานะอัพเดท และ content ในจำนวนที่เราคงวาดภาพไม่ออกว่ามากเท่าไหร่ที่ถูกโพสขึ้นไปบน Facebook
อาจเป็นเพราะเราพาตัวเองเข้าไปอยู่ในโลกของ social network อย่างเต็มตัว และเต็มใจ จนไม่ทันได้นึกว่าเวลาของเราในหนึ่งวันกับมันไปเท่าไหร่ และโดยที่ไม่รู้ตัวเอาซะเลย พฤติกรรมของเราก็เปลี่ยนไปพร้อมๆ กัน จนแทบไม่มีใครทันสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงนั้น เพราะมันกลายเป็น ‘เรื่องธรรมดา’ ไปซะแล้ว ไม่ใช้เรื่องไม่ดีอะไร เพียงแต่มันก็น่าคิดดูเหมือนกันว่า ‘เรื่องธรรมดา’ ที่เราคิดว่าธรรมดากัน จริงๆ มันแฝงความเปลี่ยนแปลงของการดำเนินชีวิตในปัจจุบันไปเท่าไหร่ 🙂
เราเอาเวลาถึง 1 ในทุกๆ 7 นาทีไปให้กับ Facebook (จะกินอะไรก็ข้อโพสก่อน คนอื่นจะได้มีส่วนร่วมในความอร่อย) , มีข้อความที่ถูกทวีตผ่าน Twitter ถึงวันละ 340 ล้านข้อความ (อันนี้รวมถึงการป่าวประกาศให้โลกรู้ว่า ณ เวลานี้เรากำลังกินข้าวถึงเม็ดที่เท่าไหร่แล้ว กินเสร็จหรือยัง แล้วกำลังจะทำอะไรต่อ…แซวเล่นเน้ออ :p), ในแต่ละวันมีรูปภาพถูกโพสขึ้น Facebook ผ่าน Instagram ถึง 300 ล้านภาพ (ย้อนกลับไปดูข้อที่ 1 :p)
จำนวนประชากรบน Facebook ตอนนี้พุ่งสูงถึง 1 พันล้านคน โดยที่กว่าครึ่งมีการเข้าใจงานเป็นประจำทุกวัน ซึ่งถ้าเรามี account หลักๆ ทุกอย่าง รวม Facebook, Twitter, Google+, LinkedIn, Pinterest และ Instagram เราใช้เวลาอยู่บนโลกเสมือนโดยเฉลี่ยแล้วเกือบ 9 ชั่วโมงต่อเดือน เอาจริงๆ ก็คงมากกว่านั้น (เอาตัวเองเป็นมาตราฐาน เปิดท้ิงเอาไว้อู้งานเป็นระยะตลอดทั้งวัน -_-!)
ในแต่ละวันเราเข้าใช้งาน Facebook ผ่านมือถือกันด้วยอุปกรณ์กว่า 7,000 ชนิด เรากด Like บน Facebook กันกว่า 500 ล้านครั้งต่อวัน อัพรูปกว่า 250 ล้านรูปต่อวัน และรวมการใช้งาน Facebook ของเราทุกคนไว้ด้วยกัน ระยะเวลาที่เราใช้กับโลกเสมือนอย่าง Facebook นั้นสูงถึง 10.5 พันล้านนาที ซึ่งเทียบเท่ากับเวลาถึง 20,000 ปี!! คือเป็นเวลาที่เยอะมาก ซึ่งถ้าเอา 20,000 ปีมาตีย้อนกลับไปในแนวนอน เราคงยังอยู่ในโลกน้ำแข็งกันอยู่
และหลังๆ เราเริ่มกันมาชอบการถ่ายรูป แต่งรูป และอัพรูปให้ประชาชนชาวโลกเสมือนช่วยกันกด Like อย่างเมามันส์ ทั้ง Pinterest และ Instagram โตเร็วพอๆ กับการขยายตัวของอมีบา ไปๆ มาๆ Pinterest ก็แซงขึ้นมาเป็น social network ที่รวบรวมชนชาวอเมริกันเสมือนไว้มากเป็นอันดับที่ 3 รองจาก Facebook และ Twitter ส่วน Instagram ก็เจองานหนัก มีภาพกว่า 1 พันล้านภาพอยู่ในคลัง แถมยังมีสมาชิกชาวติสเพิ่มขึ้นใหม่ 1 คนในทุกๆ วินาที! อะไรจะป๊อปปูล่าขนาดนั้น
Youtube นี่ไม่ต้องพูดถึง ใครไม่ฟังเพลงผ่าน Youtube สมัยนี้คงแทบไม่มี เราเข้าไปดู Youtube ผ่านทางมือถือกันวันละกว่า 600 ล้านครั้ง ส่วนที่ดูผ่านจอคอมนั้น เราดูกันวันละ 4 พันล้านวิดีโอ…เอาให้ตาแฉะกันไปข้างนึง
และที่ขาดไม่ได้จริง (คือขาดแล้วเหมือนมีมือไม่ครบ 2 ข้าง มีตาข้างเดียว สมองคิดอะไรไม่ออก งุนงง และโลกอาจหยุดหมุนได้ทุกขณะ) คือมือถือ ใครบ้างที่ไม่เคยดิ้นรนกลับไปบ้านอีกครั้งเพราะลืมมือถือ สายไม่เป็นไร แต่ไม่มีมือถือไม่ได้ เป็นเรื่องปกติที่พอมาคิดดูอีกที ก็ดูพยายามไปนะ (แต่ก็ทำอยู่เป็นประจำ :p) ต่อวันเรายุ่งกับมือถือ 40-80 ครั้ง ต้องจับมาทำอะไรสักอย่าง ไม่มีอะไรก็ขอเช็คหน้าจอดูว่าเวลาตรงมั้ย แค่นี้ก็สบายใจแล้ว :p
การใช้งานสังคมออนไลน์เป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้วสำหรับเราๆ เราบริหารชีวิตเสมือนได้โดยไม่ต้องคิดสองครั้ง มันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตจริงไปอย่างสบายๆ
เราเคยตั้งคำถามว่าอันตรายมั้ยกับการที่เราเปิดเผยข้อมูลมากมายผ่านโลกเสมือนที่สามารถเชื่อมต่อคนที่เราไม่่รู้จักทั้งโลกเข้าด้วยกัน แต่การกระทำของเราก็สรุปไปแล้วว่า การบอกเพื่อนๆ บนโลกออนไลน์ว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน ทำอะไรอยู่ เกิดวันไหน และเรื่องที่เคยเป็นเรื่องส่วนตัวอื่นๆ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ไม่ต่างกับการไถ่ถามคนแปลกหน้าถึงเรื่องราวในชีวิตของเขา เพียงแต่ในโลกเสมือนนี้เราไม่ต้องรอให้ใครถาม เราก็ชิงบอกก่อน…อยากเป็นเพื่อนกันก็ add มาเท่าน้ันเอง 🙂
ที่มา: Creotivo